มือใหม่

เป็นกันไหม สงสัยทำไมถึงต้องลงทุนไม่เก็บเงินไว้ในธนาคาร? อยากเล่นหุ้นแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี? อยากเรียนรู้เกี่ยวกับหุ้นแต่ไม่รู้ว่าเราต้องรู้อะไรบ้าง?!! วันนี้คุณมาถูกที่แล้วเพราะเราจะนำเสนอวิธีเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ครับ^^

สารบัญ
1.ลิ้งเว็ปไซต์สำคัญๆสำหรับนักลงทุน (แนะนำ)
2.ทำไมต้องลงทุน?
3.เริ่มต้นยังไงดี?
4.แล้วมือใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง?(หนังสือeBook อ่านฟรี)
5.มีความรู้แล้วเข้าตลาดหุ้นทันทีเลยดีไหม?
6.Q&A ตอบปัญหาคาใจทั่วไป (แนะนำ)

1.ลิ้งเว็ปไซต์สำคัญๆสำหรับนักลงทุน

1. http://www.set.or.th/set/commonslookup.do?language=th&country=TH
เรียก ได้ว่าเป็นเว็ปไซต์ที่ทุกคนต้องเข้ามาดูเลย ซึ่ง(1)สามารถดูข้อมูลหุ้น เช่น งบการเงิน, ข่าว, Annual Reportได้ (2)ปฏิทินหลักทรัพย์ สามารถดูว่าตัวไหนจ่ายปันผล(XD)หรือประกาศต่างๆเช่นXR, XM ซึ่งในเว็ปมีอธิบายหมดครับว่าตัวย่อเหล่านี้คืออะไร  (3)หุ้นไอพีโอ ดูข้อมูลเบื้องต้นหุ้นIPOตัวใหม่และดูสถิติย้อนหลังได้

2. http://www.settrade.com
(1)สามารถLog inเข้าสู้ระบบซื้อขายได้ (2) ตรวจสอบยอดซื้อขายประจำวันได้ทุกตลาด และตรวจสอบพวกหุ้นTop gainer , Most Active Volumeได้ด้วยเช่นกัน (3)มีบทความดังๆที่มีประโยชน์มากมาย

3. http://www.dcs-digital.com/setweb/index.php
สามารถ ดูOpportunity Dayได้แบบLive และแบบย้อนหลัง  Opportunity Dayคือวันที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมาพูดสรุปโดยรวมเกี่ยวกับบริษัทของ เค้าครับ มีประโยชน์มากๆสำหรับนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า

4. http://www.ryt9.com/stock-latest
อัพเดตข่าวหุ้นได้เร็วทันใจมากๆ^^

5. http://www.bangkokbiznews.com/home/news/finance/stock-focus/news-list-1.php
อีกหนึ่งเว็ปไซต์ที่อัพเดตข่าวหุ้น

6. http://www.stock2morrow.com/
เป็นแหล่งชุมชนของนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุด สามารถดูข่าวสารสำคัญต่างๆและบทความดีๆอีกมากมาย

7 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/
อ่านและแลกเปลี่ยนความคิดกันกับรายย่อยได้ที่นี้เลยครับ...แต่ระวังรายใหญ่มาแอบอ่านแล้วเล่นสวนนะ...

8 http://board.thaivi.org/viewforum.php?f=4
หัวข้อ"ร้อยคนร้อยหุ้น" เหมาะสมหรับนักลงทุนแบบเน้นคุณค่ามากๆ  เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีมากอีกที่หนึ่งครับ

9 http://www.investing.com/indices/major-indices
สามารถตรวจสอบดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกแบบReal Time

10 http://www.investing.com/economic-calendar/
ตรวจสอบตัวเลขทางเศรษฐกิจได้ ข่าวอัพเดตแบบรายวัน

11 http://www.bloomberg.com/markets/stocks/
อ่านข่าวสารเรื่องหุ้นทั่วโลกได้ที่นี้เลยครับ

12 http://siamchart.com/stock/
เว็ปไซต์ที่เก็บข้อมูลหุ้นเป็นสถิติ มีประโยชน์มากๆ

13http://www.tsi-thailand.org/index.php
งานสัมมนาฟรี

14 applicationดีๆบนมือถือสำหรับ นักลงทุน

2.ทำไมต้องลงทุน?
ตอบแบบเข้าใจง่ายเพราะถ้าคุณลงทุนไม่ว่าจะในพันธบัตร,ที่ดินหรือหุ้นนั้นมีโอกาสที่จะรวยเร็วกว่าฝากเงินในธนาคารเยอะมาก อีกทั้งการเอาเงินฝากในธนาคารนั้นจะทำให้คุณจนลงไม่รู้ตัวเพราะเงินเฟ้อด้วยตัวอย่างเช่นดอกเบี้ย1.5% แต่เงินเฟ้อ3.5%นั้นเท่ากับว่าเงินของคุณกำลังเสียมูลค่า!  กลับมาเรื่องของการลงทุน ซึ่งในตลาดหุ้นนั้นมีความเสี่ยงสูงสุดแต่ก็เป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดเช่นกันตามที่เค้าว่ากันไว้High Risk High Return ซึ่งถ้าคุณมีเงิน100,000บาท เอามาลงทุนในตลาดหุ้น1ปีมีโอกาสที่จะขาดทุนเหลือ80,000บาท แต่ถ้าคุณลงทุนอย่างมีความรู้ก็สามารถทำให้เงิน1แสนกลายเป็น150,000บาทได้ (ในตลาดหุ้นได้กำไรเฉลี่ยปีละ50%ถือว่าสูงมากนะครับ มือใหม่ควรตั้งเป้าไว้10-20%ก็พอครับ) และจำไว้ว่า3สิ่งสำคัญที่ทำให้ลงทุนสำเร็จคือ ความรู้, ประสบการณ์,และ จิตใจครับ

ภาพจากTSI

3.เริ่มต้นยังไงดี?
ถ้าเป็นคนอื่นจะแนะนำวิธีต่างๆในการเปิดบัญชี แต่สำหรับผมขอแนะนำว่า อย่ารีบเปิดบัญชี! คุณเข้ามาตลาดหุ้นทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเลยคุณก็จะออกไปแบบหมดตัว อีกทั้งตลาดหุ้นมันเหมือนยาเสพติดที่เข้าแล้วออกยาก เข้ามาแล้วจะเฝ้าหน้าจอทั้งวัน เสาร์อาทิตย์เหมือนขาดอะไรบางอย่าง และในความคิดผมคนส่วนใหญ่ทำเหมือนติดการพนันในตอนเข้ามาตลาดหุ้นช่วงแรกๆ(บางคนติดตลอดชีวิต) ซึงในระยะยาวพวกกล้าได้กล้าเสียแบบไม่มีความรู้จะขาดทุนกันทุกคนครับ ดังนั้นควรมีความรู้ก่อนเข้ามาครับ แล้วต้องรู้อะไรบ้างต่อข้อ3เลยครับ

4.แล้วมือใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง?
ตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด คุณจะต้องเรียนรู้ตลอดไม่ว่าจะอยู่ตลาดนานแค่ไหน สำหรับมือใหม่ผมแนะนำว่า:
(3.1)สำหรับหนังสือหุ้น ผมแนะนำให้อ่าน4เล่มนี้ก่อนครับ(ดูด้านล่าง) ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าผมแนะนำให้อ่านหนังสือของคนไทยก่อน ไม่แนะนำให้มือใหม่เริ่มด้วยการอ่านหนังสือแปลของต่างชาติ เนื่องจากตลาดหุ้นในเมืองไทย"ต่าง"กับตลาดหุ้นเมืองนอกชัดเจน หลายๆสิ่งที่เขียนในหนังสือแปลของต่างชาติไม่สามารถนำมาใช้ได้จริงในตลาดหุ้นไทย ตัวอย่างเช่น คุณลองนึกถึงบริษัทดังๆอย่างCoca-colaและAppleแล้วมาเปรียบเทียบกับบริษัทในตลาดหุ้นไทยดู มีบริษัทไหนที่มี"แบรนด์"ที่ทรงพลังและสามารถขยายกิจการไปทั่วโลกได้ไหม? และหลังจากที่คุณลงทุนมาซักพักรู้ว่าตลาดหุ้นไทยเป็นยังไง ผมแนะนำให้คุณเปิดหูเปิดตาอ่านหนังสือแปลของต่างชาติเพื่อสร้างเสริมมุมมองใหม่ๆครับ

หนังสือ eBookอ่านฟรีครับ

หนังสือ Common Stocks and Uncommon Profits
 
หนังสือวิถีแห่งเต๋า ของ วอเร็น บัฟเฟตต์
 
หนังสือ ลงทุนแบบจอห์น เนฟฟ์

คัมภีร์หุ้น

หนังสือหุ้นที่ดีที่สุดในความคิดของผมครับ เนื้อหาครอบคลุมดีมากทั้งเศรษฐศาสตร์, ตลาดหุ้น, ประสบการณ์จริง, จังหวะเข้าออก, วิเคราะห์พื้นฐาน

รวยได้ด้วยหุ้น



หนังสือการลงทุนแบบเน้นคุณค่า สอนอ่านงบการเงินที่สำคัญและใช้ได้จริงในตลาดหุ้นไทย เนื้อหาเหมาะสำหรับมือใหม่จนนักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้ว

ตีแตก



หนังสือสอนงบการเงินเบื้องต้น แนวการลงทุนต่างๆ และประสบการณ์ลงทุนของเซียนหุ้นตัวจริง ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

คำเตือน:อ่านหนังสือพวกนี้ดูแล้วเหมือนง่าย แต่ตลาดหุ้นจริงโหดร้ายกว่าในหนังสือเยอะนะครับ ควรเข้าตลาดหุ้นด้วยจำนวนเงินน้อยๆก่อน ปีแรกคือการลองวิชาอย่าหวังกำไรมาก

สำหรับคนที่พอมีประสบการณ์แล้ว อยากลองอ่านหนังสือแปลจากต่างชาติ แนะนำให้อ่านหนังสือของ Peter Lynch อดีตผู้จัดการกองทุนมือ1ของอเมริกาครับ ซึ่งในความคิดเห็นของผมตลาดหุ้นไทยเหมาะกับแนวทางของPeter Lynch มากกว่าแนวทางของ Warren Buffettครับ

 สรุปหนังสือ Beating the Street



หนังสือที่แนะนำมาทั้งหมดจะเป็นแบบวิเคราะห์พื้นฐาน(VI)นะครับ สำหรับเทคนิคอลซึ่งมีประโยชน์มากในการหาจังหวะเข้าออกนั้นสามารถเข้าไปดูข้อมูลที่หัวข้อ "เทคนิคอล" หรือเว็ปไซต์ต่างๆได้ครับ

(3.2)ไปงานสัมมนาพบปะมืออาชีพ!  สามารถหาข้อมูลงานสัมมนาได้ที่ http://www.tsi-thailand.org/ และ seminardd  ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบฟรีและเสียค่าธรรมเนียม ใครมีเวลาก็ลองไปฟังกันดูนะครับ และจริงๆแนะนำให้หาคอร์สเรียนดูครับ ซึ่งคอร์สเรียนหุ้นหรืองานสัมมนาหุ้น คุณอาจจะรู้สึกว่ามันแพง แต่จริงๆสิ่งเหล่านี้คุ้มครับถ้าคุณ"ตั้งใจ"เรียนจริงๆ เอากลับมาทบทวนและลองใช้งานจริง จะทำให้คุณมีความรู้ติดตัวและสร้างความมั่งคั่งได้ตลอดชีวิต ให้คิดว่าเงินค่าเรียน10,000บาทเป็นการลงทุนในตัวเองเพื่ออนาคตครับ^^(ดีกว่าเอาเงินล้านมาเล่นแล้วขาดทุนหลักแสน)

(3.3)แล้วจะรู้เรื่องหุ้นแต่ละตัวได้ยังไง?  วิธีที่ผมใช้ก่อนทำความรู้จักหุ้นต่างๆก่อนเข้ามาในตลาดหุ้นคือ"เริ่มจากตัวA จบที่ตัวZ" ความหมายคืออ่านทุกตัวครับ เลือกตามลิ้งนี้-> ข้อมูลรายบริษัท/หลักทรัพย์ โดยสามารถอ่านข้อมูลบริษัทแบบละเอียดได้ใน56-1 ตามภาพครับ

(3.4)เข้าชุมชมนักลงทุนในโลกออนไลน์เช่น http://www.stock2morrow.com/, http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/, http://www.thaivi.com/ ซึ่งคุณสามารถหาข้อมูลข่าวสารต่างๆและถามคำถามที่สงสัยได้ครับ  ใครมีคำถามสามารถสอบถามได้ที่เพจ http://www.facebook.com/TheYoungbloodWay ตลอดเวลานะครับ^^


5.มีความรู้แล้วเข้าตลาดหุ้นทันทีเลยดีไหม?

มี2ทางเลือก
1:คุณสามารถไปลองวิชาได้ในเกมหุ้น(เงินเกมแต่ตลาดจริง)นั้นคือ click2win ซึ่งมือใหม่สามารถสมัครแข่งชิงเงินรางวัลได้ครับ รางวัลที่1ส่วนใหญ่จะประมาณ20,000บาท
2:เกมมันไม่ตื่นเต้น เข้ามาตลาดหุ้นจริงๆได้เลย! และข้อนี้ผมแนะนำว่าไม่ต้องสนใจสภาพตลาดช่วงเวลานั้นๆเข้ามาได้เลยทุกเวลา สำคัญคือคุณ"ควรเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อยๆ"เป็นระยะเวลาครึ่งปีหรือ1ปีครับ เพราะสุดท้ายถึงคุณจะเรียนรู้มาเยอะแค่ไหนพอมาเจอตลาดจริงๆในระยะยาวคุณจะขาดทุนครับ(ใครเข้ามาแปปเดียวได้กำไรอย่าพึ่งได้ใจ เพราะหลายคนก็เป็น สุดท้ายเหลิงจนขาดทุนยับ)   ปีแรกให้ถือซะว่ามันเป็นค่าครูนะครับ เสียเล็กเสียน้อยอย่าไปสนใจให้ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆดีกว่าจะได้รู้อะไรจริงๆ


6.Q&A ตอบปัญหาคาใจทั่วไป

Q:การลงทุนมีกี่วิธี?
A:มี2ทางหลักๆที่คนนิยมกัน 1:ลงทุนเชิงเทคนิคอล(เลือกหุ้นโดยดูจากกราฟ) 2:ลงทุนแบบเน้นคุณค่า(อ่านงบ ดูธุรกิจ)
ข้อ1สามารถดูตัวอย่างเทคนิคอลได้ที่หัวข้อ "เทคนิคอล"  ข้อ2ดูตัวอย่างได้ที่ "วิเคราะพื้นฐาน"

Q:โปรแกรมดูกราฟหาได้จากไหน?
A:โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีให้ใช้หมดโดยใช้IDเลขที่บัญชีของคุณ ตัวอย่างของMaybank Kimengตามภาพให้คลิกตรงแถบด้านซ้ายหัวข้อชื่อว่า"KeEfin Smart"

Q:ลงทุน/เล่นหุ้น มาซักพักแต่ขาดทุนตลอดทำไงดี
A:อย่ายอมแพ้! ขยันให้มากกว่าเดิม อ่านหนังสือให้เยอะ เรียนรู้จากข้อผิดพลาดของตัวเอง ไปงานสัมมนา,หาคอร์สเรียนเรื่องการลงทุน ให้คิดว่าค่าใช้จ่ายช่วงแรกๆคือการลงทุนอย่างหนึ่งเพื่อผลประโยชน์ระยะยาว เพราะเราเรียนรู้แล้วจะจำไปตลอด!

Q:ติดดอยทำไงดี?
A: สำหรับคนที่ติดอยู่แล้วต้องดูว่าติดตัวไหน ถ้าติดหุ้นปั่นควรcut loss  ถ้าหุ้นพื้นฐานดีมีแนวโน้มว่าจะกลับตัวให้รอได้   และควรทำการบ้าน/วางแผน"ก่อน"ซื้อทุกครั้งเช่น:
ตัวอย่างสมมุตินักเทคนิค ถ้าซื้อPTTที่300บาท เรายอมรับการขาดทุนได้ที่5%ดังนั้นตกมา285เราจะคัด หรือหลุดแนวรับสำคัญ280เราจะcut lossทันที
ตัวอย่างนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า(VI) ควรแบ่งเงินซื้อหลายๆรอบอย่าซื้อทีเดียวหมดตัว เช่นถ้ามั่นใจในหุ้นCPFให้ซื้อไม้แรกไปก่อน แล้วไม้2 ไม้3ค่อยตามมาทีหลัง จะเป็นการซื้อถัวตอนมันลงมา5%หรือซื้อเพิ่มตอนมันทะลุแนวต้านก็ได้ หลังจากนั้นเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเองและอดทนรอ ถ้าผิดถือว่าเป็นค่าครูและเรียนรู้จากข้อผิดพลาดว่าทำไมครั้งนี้เราวิเคราะห์ผิด

Q:ซื้อแล้วดอยทุกครั้งเป็นเพราะอะไร?
A:เพราะคุณซื้อด้วยอารมณ์ไม่ใช้การตัดสินใจที่เป็นเหตุเป็นผล โปรดอ่านบทความ"ขายIphone5 10,000บาท!- การตัดสินใจที่เป็นเหตุเป็นผลเรื่องราคาและมูลค่า" 
 
Q:ดูยังไงว่าหุ้นถูก/แพง
A:วิเคราะห์พื้นฐาน!  จำไว้เลยไม่สำคัญว่าในอดีตหุ้นเคยอยู๋ที่ราคาเท่าไรแต่สิ่งสำคัญคือมูลค่าในตอนนี้ของมันหุ้นหลายๆตัวอาจราคาเคยขึ้นไปสูงๆได้เพราะ"story"ทั้งๆที่พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนไปมากพอสุดท้ายผลประกอบการออกมากำไรไม่เปนไปตามที่หวังสุดท้ายราคาก็ร่วง สมมุติหุ้นตัวหนึ่งคาดหวังว่าผลประกอบการจะดีมากจนราคาพุ่งไป30บาท พองบออกไม่ดีตามที่คาดราคาร่วงมา23บาท แบบนี้ก็ไม่ได้แปลว่าถูกเพราะมูลค่าจริงๆอาจอยู่ที่20บาท แต่ไป30บาทได้เพราะคนมองโลกในแง่ดีกันมากเกินไป  และสำหรับหุ้นทั่วๆไปสามารถดูว่าถูก/แพงได้จากค่า"P/E"  แต่เราจะรู้P/Eที่เหมาะสมได้อย่างไร?

วิธีง่ายๆคือให้ เปรียบเทียบP/E และ constant growth rate

หุ้นที่P/E19 อนาคตเติบโตเฉลี่ย 25% มันคือหุ้นถูก

หุ้นที่P/E7 อนาคตเติบโตเฉลี่ย 5% มันคือหุ้นแพง

หุ้นที่P/E6 กำไรนิวไฮ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์นิวไฮ มันอาจเป็นยอดดอย

หุ้นทีP/E50 เต็มไปด้วยข่าว อย่าไปยุ่ง

แล้วเราจะรู้การเติบโตในอนาคตได้ยังไง?

มันก็คือการวิเคราะห์เชิงคุณภาพและเชิงปริมาณในตัวธุรกิจนั้นๆ ซึ่งนี้คือสิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุน ลองอ่านหนังสือการลงทุนแบบเน้นคุณค่ากันดู เช่นตีแตก, รวยได้ด้วยหุ้น, หนังสือของpeter lynch, ตะแกร่งร่อนหุ้น เป็นต้น ให้ดีควรอ่านให้หมดในร้านหนังสือ แล้วนำมาapplyเป็นของตัวเราเอง

Q:ผมไม่รู้จักหุ้นซักตัว หาหุ้นยังไงดี?
A:เริ่มที่Aจบที่Z  ศึกษาหุ้นทุกตัวได้ในลิ้งนี้ -> http://www.set.or.th   และคุณควรติดตามข่าวสารต่างๆดูว่าเทรนด์อะไรกำลังมาเช่นในปี2555เป็นปีทองของ กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มสินเชื้อ ดังนั้นคุณควรซื้อหุ่นในกลุ่มนี้ โดยหาหุ้นด้วยตัวเอง ศึกษาด้วยตัวเอง ต้องขยัน! ไม่ควรซื้อหุ้นที่คนอื่นแนะนำเพราะคุณอาจจะได้ข่าวนี้เป็นคนสุดท้าย และสิ้นสุดขาขึ้นแล้วก็ได้

สามารถสอบถามทุกเรืองเกี่ยวกับกับการลงทุนได้ที่ http://www.facebook.com/TheYoungbloodWay